บทความที่ได้รับความนิยม

วันอังคารที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ขั้นที่ 7 แนวทางปฏิบัติหลังศาลตัดสินแล้ว ว่าคุณเหมาะสมกับแบบไหนระหว่าง การจ่ายหลังคำพิพากษา &รอให้อายัดเงินเดือน

1) การจ่ายเงินหลังคำพิพากษา จะเหมาะกับ คนที่มีบ้าน จำนองบ้าน +โดนฟ้อง 1-3 ราย + เงินเดือนสูง

- กรณีเงินเดือนสูง 30,000 – 50,000 ถ้าปล่อยไปถึงอายัดเงินเดือนมากตาม เดือนละ 9,000 – 15,000

- การโดนฟ้องศาลไม่มาก 1- 3 ราย ถ้าโดนฟ้องติดๆกัน รวมทั้งหมด 3 ราย และแต่ละรายจะต้องผ่อนจ่ายหลังคำพิพากษารายละ 2,000 บาท ในช่วงปีที่ 1 (แบบขั้นบันได) อาจจะจ่ายน้อยบ้าง ครบบ้าง ตามความเหมาะสม ดังนั้นคุณเสียเงินเพื่อผ่อนจ่ายตามคำพิพากษาเฉลี่ย 1,000 - 2,000 * 3 ราย = 3,000 - 6,000 บาท/เดือน ส่วนต่างที่เหลือเมื่อเทียบกับการปล่อยให้อายัดเงินเดือน = 6,000-12,000 บาท/เดือน ก็จะเป็นทั้งการป้องกันเรื่องการโดนบังคับคดี ยึดบ้าน หรือ เพื่อเก็บเงินต่อเดือนมากขึ้น เพื่อเก็บไว้รอ hair cut นั่นเองนะครับ

- คนที่มีบ้าน/บ้านจำนอง และโดนฟ้องหลายราย การผ่อนจ่ายจะมากตาม จนไม่สามารถเก็บเงินได้ วิธีนี้อาจจะไม่ใช่ทางออกที่ดีนั่นเอง

2) การให้ไปจบที่อายัดเงินเดือน จะเหมาะกับ คนที่ไม่มีบ้าน จำนองบ้าน +โดนฟ้องมากกว่า 3 ราย

- เราสามารถเจรจา hair cut ได้ตลอดเหมือนแบบที่ 1

3) แนวทางการ hair cut จะทำตอนไหนระหว่าง (จ่ายตามคำพิพากษา) หรือ (อายัดเงินเดือน) โดยรูปแบบการ hair cut ตั้งแต่ขั้นตอนนี้จะแตกต่างกันแล้วแต่กรณี รายละเอียดตามนี้

3.1 ถ้าไม่มีบ้าน จำนองบ้าน เงินเดือน +/- 10,000
case แบบนี้ หลังศาลตัดสินลูกหนี้จะได้เปรียบเพราะเจ้าหนี้ไม่มีช่องทางจะเอาเงินคุณได้ เลย แต่ถ้าคุณไม่จ่าย หนี้ก็จะติดตัวคุณไปตลอด!!!
ค่อยๆเก็บเงินไปไม่กี่เดือนก็จะ hair cut ได้

3.2 ถ้ามีบ้าน/บ้านติดจำนอง ทรัพย์สิน เงินเดือน +/- 10,000
case นี้การนิ่งเฉยไม่ทำอะไรเลย ถึงแม้จะอายัดเงินเดือนไม่ได้ แต่จะเสียงกับการโดนสืบทรัพย์ได้ ทั้งบ้านที่ไม่ติดจำนอง หรือ บ้านที่ติดจำนองแต่ผ่อนมานาน จนมูลหนี้เหลือน้อยมาก จะเกิดส่วนต่างระหว่างหนี้ กับ ราคาประเมินมาก เจ้าหนี้อาจจะฟ้องบังคับคดีขายทอดตลาดเพื่อเอาเงินส่วนต่างตรงนี้นั่นเอง
การ hair cut ทำได้เหมือนข้อ 1 แต่จะเสี่ยงมากกว่า ทางออกคือต้องประเมินเรื่องบ้านก่อน และ เจรจากับเจ้าหนี้อย่างต่อเนื่อง ห้ามหายตัวเด็ดขาด

3.3 ถ้าไม่มีบ้าน/ไม่มีบ้านติดจำนอง เงินเดือน > 10,000 - 20,000
case นี้การนิ่งเฉยหลังศาลตัดสิน เจ้าหนี้จะฟ้องบังคับอายัดเงินเดือนได้อย่างเดียว
การ hair cut ทำได้ตั้งแต่ศาลตัดสิน จนถึงระหว่างอายัดเงินเดือน ระหว่างอายัดเงินเดือนก็สามารถเจรจา hair cut ได้ขอเพียงมีเงินพร้อม และเจรจาจนพอใจทั้ง 2 ฝ่าย

3.4 ถ้ามีบ้าน/มีบ้านติดจำนอง เงินเดือน >10,000 -20,000
case นี้การ นิ่งเฉย หรือคิดว่าจะปล่อยให้อายัดเงินเดือนต้องระวัง เพราะเจ้าหนี้จะทำการสืบทรัพย์และบังคับยึดบ้าน ก่อนถึงขั้นตอนอายัดเงินเดือนได้
จึงควรต้องเจรจากับเจ้าหนี้ให้ได้ว่าจะให้เราผ่อนจ่ายเท่าไหร่ ห้ามหายหน้าเด็ดขาด เงื่อนไขเจรจาที่ได้ผลดีคือขอจ่ายแบบขั้นบันได เริ่มปีที่1 น้อย แล้วค่อยๆเพิ่มไป ตามความเหมาะสม) หลังจากได้เงื่อนไขแล้วก็ชำระหนี้ไปอย่างสม่ำเสมอ จ่ายพอดีบ้าง น้อยบ้าง แบบสมเหตุสมผล เพื่อไม่ให้เจ้าหนี้ฟ้องบังคับคดีเราได้ หรือถ้าแก้ไขเรื่องบ้านได้แล้ว จะให้ไปจบที่อายัดเงินเดือนก็ย่อมทำได้

การ hair cut จะต้องพิจารณามากกว่าข้อ 3.3 เนื่องจาก มีบ้าน/จำนองบ้าน การปล่อยให้ไปถึงขั้นตอนอายัดเงินเดือน บ้าน/บ้านจำนอง อาจจะได้รับผลกระทบด้วย

3.5 ถ้ามีบ้าน/มีบ้านติดจำนอง เงินเดือนสูงๆ เช่น 30,000 - 50,000
case นี้ถ้านิ่งเฉยหลังศาลตัดสิน จะเสี่ยองต่อการโดนยึดทรัพย์เหมือน ข้อ 3.4 อีกทั้งการอายัดเงินเดือนก็จะโดนมาก คือ 30% = 9,000 - 15,000 (ภาระที่หนักมากนั่นเอง) จึงมีลายทางเลือก เนื่องจากมีรายได้สูง

- การขอจ่ายหลังคำพิพากษา เพื่อลดภาระการชำระหนี้มากๆๆ นั่นเอง เช่น ขอจ่าย 1,500 หรือ 2,000 หรือ 2,500 ต่อ/เดือน แบบขั้นบันได มีน้อยจ้ายน้อย จ่ายพอดีบ้าง ซึ่งการจ่ายแบบนี้จะน้อยกว่าโดนอายัดเงินเดือน แต่ต้องโดนฟ้อง 1-3 รายเท่านั้น ถึงจะคุ้ม เงินส่วนต่างก็เก็บไว้เพื่อรอ hair cut เป้นต้น

- ถ้าโดนฟ้องเกิน 3 ราย การจ่ายหลังคำพิพากษาจะไม่คุ้ม เช่น โดนฟ้อง 5 ราย จะต้องผ่อนจ่ายเกือบ 10,000 บาท/เดือน ซึ่งจะทำให้ไม่มีเงินเหลือเก็บเพื่อ hair cut เป็นต้น

ห้ามคิดว่าต้องแก้ไขด้วยวิธีเดียวกัน หรือเหมือนกันหมดทุก case นะครับ

ที่มา: http://www.consumerthai.org/old/compliant_board1/view.php?id=10152

6 ความคิดเห็น:

  1. อ่านมาทั้งหมดก็มีประโยชน์บ้าง เสียโอการสบ้าง งงๆๆ บ้าง ขอแนะให้ใช้หลักคิดว่า ไม่ว่าจะให้เจ้าหนี้อายัดเิงินเดือน หรือขอผ่อนจ่ายน้อยๆ ในที่สุดเราก็ต้องรับภาระดอกเบี้ยมากอยู่ดี คือว่าหากศาลพิพากษาเท่าไหร่ และให้คิดดอกเบี้ยอัตราละเท่าไหร่ ช่วยอ่านให้ละเอียด ไม่ใช้แค่อยากจ่ายน้อยๆๆอย่างเดียว ต้องวางแผนว่าจะหมดหนี้ได้อย่างไรมากกว่า (ลองหาเงินก้อนมาปิด น่าจะได้ส่วน ลด มากมายอยู่) ไปคุยกับ ญาติพี่น้อง ธนาคารออทสิน ธนาคารอิสลาม หรือ ไฟเนนท์ อื่นๆ ที่เขาให้สินเชื่อ หากเราได้สว่น ลด มามากๆ น่าจะคุ้มกว่า และเราจะรู้ว่าจะหมดหนี้ภายใน กี่ปี นะ/ขอบคุณ

    ตอบลบ
  2. หากจะให้แนะนำเป็นการ ส่วน ตัว ปรึกษา ฟรี ที่ mu.pawin@gmail.com

    ตอบลบ
  3. แล้วถ้าขึ้นศาลมาแล้วตัดสินว่าต้องจ่ายเดือนละ2500฿36งวด..แต่ยังไม่ได้เริ่มจ่ายเลยสักงวดผ่านมา2เดือนแล้ว ยอดยุ่ที่170,000฿
    จะสามารถขอทำ Hair cut ได้หรือไม่คะ
    แล้วจะได้ส่วนลดบ้างมั้ยคะ

    ตอบลบ
  4. อยากเรียนสอบถามหาข้อมุลครับ​ คือเป็นหนี้บัตรเครดิต​ ตอนนี้โดนหมายศาลให้บังคับอาญัติเงินเดือนส่วนหนึ่ง​ ก้อโดนหักมา2-3เดือนแล้ว

    ทีนี้ถ้าเราอยากจะเจรจาขอลดดอกเบี้ยจะสามารถทำได้หรือเปล่าครับ​ ต้องติดต่อทางแบงค์หรือกรมบังคดี​ จะดีที่สุดครับ

    ตอบลบ
  5. นี่คือประกาศสาธารณะสำหรับทุกคนที่ต้องการขายไตเรามีผู้ป่วยที่ต้องการการปลูกถ่ายไตดังนั้นหากคุณสนใจที่จะขายไตโปรดติดต่อเราทางอีเมลของเราที่ iowalutheranhospital@gmail.com
    นอกจากนี้คุณยังสามารถโทรหรือเขียนถึงเราได้ที่ whatsapp ที่ +1 515 882 1607

    หมายเหตุ: รับประกันความปลอดภัยของคุณและผู้ป่วยของเราได้ตกลงที่จะจ่ายเงินจำนวนมากให้กับทุกคนที่ตกลงที่จะบริจาคไตเพื่อช่วยพวกเขา เราหวังว่าจะได้ยินจากคุณเพื่อให้คุณสามารถช่วยชีวิต

    ตอบลบ