เจ้าหนี้-ลูกหนี้ ควรรู้ไว้ ทวงหนี้อย่างไรไม่ผิดกฎหมาย ลูกหนี้ร้องเรียนได้หากพบถูกปฏิบัติไม่เป็นธรรม ตาม พ.ร.บ.การทวงถามหนี้ 2558
เปิด
ข้อกฎหมายน่ารู้ สรุปสาระสำคัญใน พ.ร.บ.การทวงถามหนี้ พ.ศ. 2558
ซึ่งเริ่มมีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่วันที่ 2 กันยายน 2558
กับรายละเอียดที่เจ้าหนี้-ลูกหนี้ควรทราบ ทวงหนี้อย่างไรไม่ให้ผิดกฎหมาย
ทวงหนี้แบบใดเข้าข่ายคุกคามหรือละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของลูกหนี้
และลูกหนี้ควรปฏิบัติอย่างไร หากได้รับความไม่เป็นธรรมจากการทวงหนี้
เจ้าหนี้ควรรู้
ลูกหนี้
เหนียวหนี้สุด ๆ แต่จะทวงหนี้ได้อย่างไรถึงจะไม่ผิดกฎหมาย
และสามารถจ้างวางให้คนอื่นทำหน้าที่ทวงหนี้แทนได้หรือไม่
ใครเป็นเจ้าหนี้ควรเข้ามาดู รู้ไว้ก่อนทวงหนี้
ก่อนจะกลายเป็นฝ่ายเสียเงินค่าปรับแทนที่จะได้เงินคืน
1.
"ผู้ทวงถามหนี้" คือ เจ้าหนี้ ผู้ให้กู้เงิน
ไม่ว่าจะโดยถูกกฎหมายหรือไม่ก็ตาม
รวมถึงผู้ได้รับมอบอำนาจจากเจ้าหนี้ให้ทวงถามหนี้ อาทิ บริษัทรับทวงหนี้
2.
"ธุรกิจทวงถามหนี้" คือ ผู้ประกอบธุรกิจรับจ้างทวงหนี้
ซึ่งต้องได้รับการจดทะเบียนทวงถามหนี้ต่อนายทะเบียน
กรณีผู้ประกอบธุรกิจทวงถามหนี้เป็นทนายความ ให้จดทะเบียนกับสภาทนายความ
ผู้ฝ่าฝืนไม่ไปจดทะเบียนมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท
3.
กรณีผู้ที่ประกอบธุรกิจทวงถามหนี้อยู่หน้านี้ ให้ยื่นคำขอจดทะเบียนภายใน
90 วันนับแต่วันที่ พ.ร.บ.การทวงถามหนี้ พ.ศ. 2558 มีผลบังคับใช้ (2
กันยายน) โดยระหว่างนี้ให้ยังประกอบธุรกิจได้อยู่
4.
ห้ามเจ้าหน้าที่ของรัฐ เช่น ทหาร ตำรวจ ประกอบธุรกิจรับทวงหนี้
หรือไปช่วยคนอื่นทวงหนี้ที่ไม่ใช่หนี้ของตัวเอง
เว้นแต่เป็นหนี้ของสามีภรรยา พ่อแม่ หรือลูก
ให้สามารถทำได้ภายใต้กรอบของกฎหมาย ผู้ฝ่าฝืนมีโทษจําคุกไม่เกิน 5 ปี
หรือปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
5. ห้ามทวงหนี้กับคนที่ไม่ใช่ลูกหนี้ เว้นแต่เป็นบุคคลที่ลูกหนี้ระบุให้ไปทวงถาม โดยมีข้อปฏิบัติคือ
- ผู้ทวงหนี้ต้องแสดงตัว แจ้งชื่อ-สกุล พร้อมแสดงเจตนาว่าต้องการถามหาข้อมูลเพื่อติดต่อลูกหนี้
-
ผู้ทวงหนี้ห้ามเผยข้อมูลการเป็นหนี้ของลูกหนี้
ยกเว้นผู้ที่ได้ติดต่อนั้นเป็นสามี ภรรยา พ่อ-แม่ หรือลูกของลูกหนี้
โดยให้บอกเล่าเท่าที่จำเป็น
- ห้ามใช้ข้อความ เครื่องหมาย หรือชื่อทางธุรกิจของผู้ทวงถามหนี้บนซองจดหมาย
- ห้ามหลอกลวงหรือทำให้บุคคลอื่นเข้าใจผิด เพื่อให้ได้ข้อมูลของลูกหนี้
- ผู้ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท
6. การทวงถามหนี้ ให้ปฏิบัติ ดังนี้
- ติดต่อลูกหนี้ตามสถานที่ติดต่อที่ให้ไว้
-
ติดต่อในวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 8.00-20.00 น. และในวันหยุดราชการ เวลา
8.00-18.00 น. หากฝ่าฝืนจะถูกสั่งระงับการดำเนินการ
และหากยังฝ่าฝืนซ้ำจะถูกโทษปรับไม่เกิน 100,000 บาท
- ติดต่อตามจำนวนครั้งที่เหมาะสม
- กรณีเป็นผู้รับมอบอำนาจให้ทวงหนี้ต้องแสดงหลักฐานด้วยว่าตนเองได้รับมอบหมายมา
ลูกหนี้ควรรู้
ถูก
เจ้าหนี้หน้าโหดตามมาทวงเงินถึงที่ หากถูกข่มขู่คุกคามจะทำอย่างไรดี
แถมใช้ลูกไม้มาหลอกทวงหนี้กันแบบนี้ จะมีใครเข้ามาดูแลได้บ้างนะ
และการถูกปฏิบัติแบบใดที่ถือว่าไม่เป็นธรรม จำข้อกฎหมายเหล่านี้เอาไว้
จะได้ไม่ถูกเจ้าหนี้เอาเปรียบ
1. ข้อห้ามปฏิบัติของผู้ทวงหนี้
-
ข่มขู่ ใช้ความรุนแรง ทำให้เกิดความเสียหายต่อร่างกายหรือทรัพย์สิน
ผู้ฝ่าฝืนจําคุกไม่เกิน 5 ปีหรือปรับไม่เกิน 500,000 บาท
หรือทั้งจําทั้งปรับ
- พูดจาไม่สุภาพ ดูหมิ่น ผู้ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท
- เปิดเผยความเป็นหนี้ของลูกหนี้ให้คนอื่นได้รู้ ผู้ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท
-
ทวงหนี้ผ่านไปรษณีย์ หรือโทรสาร โดยมีข้อความแสดงการทวงหนี้ชัดเจน
ผู้ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท
-
ห้ามระบุข้อความ เครื่องหมาย
หรือชื่อทางธุรกิจของผู้ทวงถามหนี้บนซองจดหมาย
ผู้ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท
2. ห้ามทวงหนี้แบบหลอกให้เข้าใจผิด
-
ส่งเอกสารทำให้ลูกหนี้เข้าใจผิดว่าเป็นการกระทำของศาล เช่น
ส่งเอกสารที่มีตราครุฑมาให้ลูกหนี้ ผู้ฝ่าฝืนจําคุกไม่เกิน 5 ปี
หรือปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
-
ทำให้เชื่อว่ามีการส่งหนังสือบอกกล่าวทวงถาม (Notice) จากทนายความ
ผู้ฝ่าฝืนมีโทษจําคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท
หรือทั้งจําทั้งปรับ
-
ใช้เอกสารที่ทำให้ลูกหนี้เข้าใจผิดว่าจะถูกดำเนินคดี หรือถูกยึดทรัพย์
ผู้ฝ่าฝืนมีโทษจําคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท
หรือทั้งจําทั้งปรับ
-
แอบอ้างว่าเป็นการทวงหนี้จากบริษัทข้อมูลเครดิตใด ๆ
ผู้ฝ่าฝืนมีโทษจําคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท
หรือทั้งจําทั้งปรับ
3. การทวงถามหนี้ไม่เป็นธรรม ห้ามปฏิบัติดังนี้
- เรียกเก็บค่าธรรมเนียมหรือค่าใช้จ่ายในการทวงถามหนี้ในอัตราเกินกว่าที่กำหนด
-
เสนอให้ลูกหนี้สั่งจ่ายเช็คชำระหนี้ทั้ง ๆ
ที่รู้ว่าลูกหนี้ไม่มีเงินชำระหนี้ตามเช็ค ผู้ฝ่าฝืนมีโทษจําคุกไม่เกิน 1
ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
4.
คณะกรรมการกํากับการทวงถามหนี้
มีอำนาจหน้าที่ในการกำกับดูแลการทวงหนี้ของผู้ทวงถามหนี้
โดยหากลูกหนี้หรือคนอื่น ๆ ได้รับการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรม
หรือไม่เป็นไปตามกฎหมายจากผู้ทวงถามหนี้
สามารถร้องเรียนต่อคณะกรรมการกํากับการทวงถามหนี้ประจำจังหวัด
5. ให้ที่ทำการปกครอง หรือกองบัญชาการตำรวจนครบาล มีอำนาจรับร้องเรียนการทวงหนี้ผิดกฎหมาย ติดตามพฤติกรรมของผู้ทวงถามหนี้
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
ราชกิจจานุเบกษา
แหล่งข้อมูลการแก้ปัญหาหนี้ สินเชื่อบุคคลและบัตรเครดิต
บทความที่ได้รับความนิยม
-
ทางออกของคนเป็นหนี้แล้วไม่รู้จะหาแหล่งรวมหนี้ได้ที่ไหนที่นี่เลยคับ บริษัท รีโซลูชั่น เวย์ จำกัด ให้บริการสินเชื่อสำหรับผู้ที่ประสบปัญหา...
-
การเจรจาต่อรองปิดบัญชีขอส่วนลด( Hair Cut ) สิ่งที่ต้องระมัดระวังคือความแน่นอนในยอดเงินในการชำระหนี้ การโชว์เสต็ปครั้งนี้ผมมีภาพประกอบและเร...
-
เจ้าหนี้-ลูกหนี้ ควรรู้ไว้ ทวงหนี้อย่างไรไม่ผิดกฎหมาย ลูกหนี้ร้องเรียนได้หากพบถูกปฏิบัติไม่เป็นธรรม ตาม พ.ร.บ.การทวงถามหนี้ 2558 ...
-
ประเมินสถานการณ์ทางการเงินของคุณ 1) ตรวจสอบทรัพย์สินของคุณ ขั้นตอนแรกในการแก้ปัญหาวิกฤตการณ์ทางการเงินเพื่อให้ได้ภาพที่ชัดเจนของสถานการณ์ท...
-
"นิยาม" ของคำว่า Hair-cut คือ การจ่ายชำระมูลหนี้ ที่เรามีค้างจ่ายไว้กับเจ้าหนี้ โดยมีข้อตกลงเจรจา เป็นการนำเสนอที่จะลดมูลหนี้ที...
วันอาทิตย์ที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2559
เจ้าหนี้-ลูกหนี้ ควรรู้ไว้ ทวงหนี้อย่างไรไม่ผิดกฎหมาย
ป้ายกำกับ:
เจรจาหนี้,
เจรจาแฮร์คัท,
ตัดบัญชีเงินเดือน,
ทวงหนี้,
ทวงหนี้โหด
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น